Last updated: 7 มิ.ย. 2567 | 760 จำนวนผู้เข้าชม |
การทำงานในแต่ละอาชีพ เครื่องแบบ หรือ ชุดยูนิฟอร์ม เป็นเครื่องบ่งบอกถึงอาชีพของคน ๆ นั้นได้โดยที่ไม่ต้องเอ่ยถาม โดยเฉพาะอาชีพที่ต้องใช้ความชำนาญและความน่าเชื่อถืออย่าง เชฟ ที่ต้องสวมใส่ ชุดเชฟ อยู่เสมอเมื่อปฏิบัติงาน
นอกจากวัตถุประสงค์ของชุด ที่สร้างมาเพื่อป้องกันสิ่งสกปรกและช่วยเหลือเชฟในขณะที่พวกเขาปฏิบัติงานแล้ว รู้มั้ยว่า ชุดเชฟ ยังมีประวัติที่ยาวนานตั้งแต่สมัยกลางศตวรรษที่ 19 เลยล่ะ
เรามาเจาะลึกในแต่ละชิ้นส่วนของชุดเชฟกัน
1.หมวกเชฟ THE CHEF'S HAT
สัญลักษณ์อันโดดเด่นของเชฟ จะเป็นอะไรไปได้ถ้าไม่ใช่ หมวกเชฟ ที่มีลักษณ์ทรงสูง สีขาว เรียกได้ว่าเป็นส่วนประกอบที่เป็นที่รู้จักมากที่สุดเลยทีเดียว
ในสมัยก่อน ความสูงของหมวกเชฟ จะบ่งบอกถึงตำแหน่งความอาวุโสของเชฟคนนั้น ๆ ถ้าหมวกยิ่งสูงมากขึ้นเท่าไหร่ ก็แปลว่าเชฟคนนั้นอยู่ในครัวมาอย่างยาวนานมากเท่านั้น และอีกส่วนนึงที่บ่งบอกถึงระยะเวลาสั่งสมประสบการณ์ของเชฟ ก็คือ จำนวนจับจีบบนหมวกเชฟ ยิ่งมากก็ยิ่งเยอะประสบกาณ์
ในปัจจุบัน ถึงจะไม่ค่อยพบเจอเชฟที่ไหนใส่หมวกสูงจับจีบแบบดั้งเดิมแล้ว แต่ในบางภัตรคารหรู หรือในร้านอาหารชั้นเลิศบางแห่งก็ยังคงใช้หมวกเชฟทรงสูงอยู่ เชฟส่วนใหญ่จะปรับรูปแบบจากหมวกทรงสูงมาเป็นหมวกทรงกะโหลก หรือใช้เป็นเพียงผ้าโพกศีรษะไว้เฉยๆ เพราะจุดประสงค์หลักของหมวกเชฟ คือการป้องกันไม่ให้เส้นผมร่วงลงในอาหารนั่นเอง
วัสดุที่นิยมใช้ทำหมวกเชฟ
2.เสื้อแจ็คเก็ตเชฟ THE CHEF'S JACKET
ถ้าเป็นยูนิฟอร์มของเชฟ จะขาดเสื้อแจ็คเกตในชุดเชฟไปได้ยังไงใช่มั้ยคะ?
ในสมัยโบราณ เสื้อเชฟในครัวจะทำจากผ้าที่มาจากวัสดุธรรมชาติ เพื่อปกป้องร่างกายจากความร้อน ควัน และเศษอาหาร ต่อมาได้ปรับเปลี่ยนเป็นการสวมเสื้อคลุมยาวสีขาว ให้คล้ายกับชุดของนักบวช สิ่งนี้จะแสดงถึงความสะอาด ความบริสุทธิ์ และความเป็นมืออาชีพของผู้ปรุงอาหาร
ในช่วงศตวรรษที่ 19 มีการออกแบบเสื้อแจ็คเก็ตเชฟให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากขึ้น โดยเพิ่มกระดุมสองแถวและกระเป๋าเสื้อเข้ามา จากนั้นก็ได้พัฒนาต่อมาเรื่อย ๆ จนเป็นชุดเชฟที่มีดีไซน์หลากสี แต่ยังคงยึดหลักวัตถุประสงค์เดิม นั่นก็คือ เป็นเสื้อที่ทนทาน สะดวกในการทำงาน และแสดงถึงความเป็นมืออาชีพ
3.กางเกงเชฟ THE CHEF’S PANTS
กางเกงที่รวมอยู่ในชุดเชฟ ก็มีเอกลักษณ์เช่นเดียวกัน ซึ่งส่วนใหญ่จะเลือกเป็นทรงหลวม เพื่อให้เชฟนั้นสามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้สะดวก และช่วยในการระบายความร้อนได้ดี เพราะหากเชฟใส่กางเกงที่กระชับเกินไป จะทำให้ร่างกายนั้นกักเก็บความร้อนไว้ในผิวได้
วัสดุที่นิยมใช้ทำชุดเชฟ :
4.ผ้ากันเปื้อน THE CHEF'S APRON
สิ่งนี้เป็นหนึ่งตัวช่วยเสริม ที่ทำให้ชุดเชฟสมบูรณ์ยิ่งขึ้น แม้จะไม่ได้มีมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ผ้ากันเปื้อนจะช่วยป้องกันความร้อน กันไฟและคราบสกปรกในระหว่างการทำอาหารได้ดี
วัสดุที่ใช้ทำผ้ากันเปื้อนจะต้องเน้นวัสดุที่ทนไฟ ทนทาน อาจจะมีกระเป๋าไว้สำหรับการใส่อุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้ง่ายต่อการหยิบใช้งานในครัวด้วย
5.รองเท้าเชฟ THE CHEF'S SHOES
หลายคนอาจมองว่าเชฟจะใส่รองเท้าอะไรทำอาหารก็ได้ แต่ไม่เลยค่ะ
รองเท้าเชฟ คือรองเท้าที่จะต้องเน้นความปลอดภัยและใส่สบายเป็นหลัก เพราะต้องยืนทำงานทั้งวัน รองเท้าเชฟจึงต้องเลือกที่สวมใส่พอดีกับเท้า ทนแรงกระแทกและการใช้งานอย่างหนักได้เป็นอย่างดี มีคุณสมบัติกันลื่น กันไฟ และมีการเสริมกันกระแทก ในกรณีที่อาจมีอุปกรณ์ใด ๆ หรืออาหารร้อน ๆ หกใส่ได้ จะได้ไม่เจ็บตัว อีกอย่างคือควรเลือกที่ไม่มีเชือก ลดความเสี่ยงในการสะดุดเชือกรองเท้าได้ค่ะ
ทั้งหมดนี้ รวมเรียกว่า ‘ ชุดเชฟ ’
ชุดที่บ่งบอกถึงอาชีพในครัว ที่ไม่ได้มีดีแค่การทำอาหาร แต่ยังแสดงถึงความภาคภูมิใจในหน้าที่ และการสั่งสมประสบการณ์ในครัวของเชฟ ที่ได้มอบความสุขให้กับลูกค้ามาตลอดเส้นทางนี้อีกด้วย